Crystal Palace

About Crystal Palace

วังแก้ว หรือ วังกระจก เป็นสิ่งก่อสร้างที่สร้างด้วยเหล็กหล่อ และกระจกที่เดิมสร้างขึ้นที่ไฮด์พาร์คในกรุงลอนดอนในอังกฤษเพื่อใช้เป็นสถานที่สำหรับการแสดงนิทรรศการครั้งยิ่งใหญ่ ของปี ค. ศ. 1851 ภายในมีผู้ร่วมเข้าแสดงจากทั่วโลกถึง 14, 000 องค์การในเนื้อที่ทั้งหมด 92, 000 ตารางเมตร ที่เป็นการแสดงสิ่งต่างๆ ที่แสดงถึงความก้าวหน้าล่าสุดทางเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นระหว่างการปฏิวัติอุตสาหกรรม วังแก้วออกแบบโดยสถาปนิกโจเซฟ แพกซ์ตัน ตัวสิ่งก่อสร้างยาว 564 เมตร และสูง 33 เมตร ถือเป็นสิ่งก่อสร้างมุงแก้วที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์หลังจากงานนิทรรศการแล้ววังแก้วก็ถูกย้ายไปสร้างในสวนสาธารณใหม่ในย่านผู้มีฐานะดีของกรุงลอนดอนที่เรียกว่าไซเด็นแนมฮิลล์ ที่ยังไม่เปลี่ยนแปลงไปเท่าใดนักตั้งแต่สมัยวิคตอเรีย วังแก้วได้รับการขยายและตั้งอยู่ที่นั่นระหว่างปี ค. ศ. 1854 จนถึงปี ค. ศ. 1936 เมื่อถูกทำลายลงในเพลิงไหม้ คำว่า “Crystal Palace” เป็นคำที่คิดขึ้นอย่างเยาะๆ โดยนิตยสารเสียดสี “พันช์” ที่ต่อมาใช้เรียกบริเวณทางใต้ของลอนดอน และอุทยานรอบบริเวณนั้นวันที่ 30 พฤศจิกายน 1936 ภายในไม่กี่ชั่วโมง วังแก้วถูกไฟไหม้เสียหายจนย่อยยัย แสงไฟที่เผาวังแก้วนั้นสามารถมองเห็นได้ถึงจากแปดมณฑล ขณะนั้น เซอร์ เฮนรี บัคแลนด์ ผู้จัดการทั่วไปของวังแก้วกำลังเดินตรวจตรากับสุนัขและลูกสาวของเขา ต่อมาพวกเขาสังเกตเห็นเปลวไฟสีแดงเรืองแสงอยู่ภายใน ภายในนั้นเองเขาพบสองพนักงานดับเพลิงกำลังดับเพลิงย่อมๆบริเวณส่วนสำนักงาน การระเบิดเกิดขึ้นในห้องรับฝากของสุภาพสตรี ซึ่งไฟนั้นลุกโชนอย่างรุนแรงมาก ต่อมาแม้ว่าจะมีเครื่องดับเพลิงกว่า 89 ตัวและพนักงานดับเพลิงร่วม 400 ชีวิตมาถึงสถานที่เกิดเหตุแต่ก็ไม่สามารถที่จะดับไฟลงได้ บัคแลนด์กล่าวว่า "ในไม่กี่ชั่วโมงเราได้เห็นจุดจบของเดอะคริสตัลพาเลซ มันจะยังอยู่ในความทรงจำไม่เพียงแต่คนอังกฤษ แต่จากโลกทั้งโลก" ในขณะนั้นเอง มีประชาชนนับแสนคนเดินทางมาที่ไซเด็นแนมฮิลล์เพื่อชมแสงไฟที่กำลังแผดเผาวังแก้ว ในหมู่คนเหล่านั้น เซอร์ วินสตัน เชอร์ชิลล์ อดีตสมาชิกรัฐสภาอังกฤษกล่าวว่า "นี่คือจุดจบของยุค"

Crystal Palace Description

วังแก้ว หรือ วังกระจก เป็นสิ่งก่อสร้างที่สร้างด้วยเหล็กหล่อ และกระจกที่เดิมสร้างขึ้นที่ไฮด์พาร์คในกรุงลอนดอนในอังกฤษเพื่อใช้เป็นสถานที่สำหรับการแสดงนิทรรศการครั้งยิ่งใหญ่ ของปี ค. ศ. 1851 ภายในมีผู้ร่วมเข้าแสดงจากทั่วโลกถึง 14, 000 องค์การในเนื้อที่ทั้งหมด 92, 000 ตารางเมตร ที่เป็นการแสดงสิ่งต่างๆ ที่แสดงถึงความก้าวหน้าล่าสุดทางเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นระหว่างการปฏิวัติอุตสาหกรรม วังแก้วออกแบบโดยสถาปนิกโจเซฟ แพกซ์ตัน ตัวสิ่งก่อสร้างยาว 564 เมตร และสูง 33 เมตร ถือเป็นสิ่งก่อสร้างมุงแก้วที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์หลังจากงานนิทรรศการแล้ววังแก้วก็ถูกย้ายไปสร้างในสวนสาธารณใหม่ในย่านผู้มีฐานะดีของกรุงลอนดอนที่เรียกว่าไซเด็นแนมฮิลล์ ที่ยังไม่เปลี่ยนแปลงไปเท่าใดนักตั้งแต่สมัยวิคตอเรีย วังแก้วได้รับการขยายและตั้งอยู่ที่นั่นระหว่างปี ค. ศ. 1854 จนถึงปี ค. ศ. 1936 เมื่อถูกทำลายลงในเพลิงไหม้ คำว่า “Crystal Palace” เป็นคำที่คิดขึ้นอย่างเยาะๆ โดยนิตยสารเสียดสี “พันช์” ที่ต่อมาใช้เรียกบริเวณทางใต้ของลอนดอน และอุทยานรอบบริเวณนั้นวันที่ 30 พฤศจิกายน 1936 ภายในไม่กี่ชั่วโมง วังแก้วถูกไฟไหม้เสียหายจนย่อยยัย แสงไฟที่เผาวังแก้วนั้นสามารถมองเห็นได้ถึงจากแปดมณฑล ขณะนั้น เซอร์ เฮนรี บัคแลนด์ ผู้จัดการทั่วไปของวังแก้วกำลังเดินตรวจตรากับสุนัขและลูกสาวของเขา ต่อมาพวกเขาสังเกตเห็นเปลวไฟสีแดงเรืองแสงอยู่ภายใน ภายในนั้นเองเขาพบสองพนักงานดับเพลิงกำลังดับเพลิงย่อมๆบริเวณส่วนสำนักงาน การระเบิดเกิดขึ้นในห้องรับฝากของสุภาพสตรี ซึ่งไฟนั้นลุกโชนอย่างรุนแรงมาก ต่อมาแม้ว่าจะมีเครื่องดับเพลิงกว่า 89 ตัวและพนักงานดับเพลิงร่วม 400 ชีวิตมาถึงสถานที่เกิดเหตุแต่ก็ไม่สามารถที่จะดับไฟลงได้ บัคแลนด์กล่าวว่า "ในไม่กี่ชั่วโมงเราได้เห็นจุดจบของเดอะคริสตัลพาเลซ มันจะยังอยู่ในความทรงจำไม่เพียงแต่คนอังกฤษ แต่จากโลกทั้งโลก" ในขณะนั้นเอง มีประชาชนนับแสนคนเดินทางมาที่ไซเด็นแนมฮิลล์เพื่อชมแสงไฟที่กำลังแผดเผาวังแก้ว ในหมู่คนเหล่านั้น เซอร์ วินสตัน เชอร์ชิลล์ อดีตสมาชิกรัฐสภาอังกฤษกล่าวว่า "นี่คือจุดจบของยุค"